สำหรับขาย
สำหรับเช่า
อะไหล่/อุปกรณ์เสริม
บริการที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะ
ชุมชน
บทความ รถยนต์

ซื้อขายรถมือสองง่ายๆ จบได้ใน 10 ขั้นตอน!

lucknaris
02 Jan, 2019
ซื้อขายรถมือสองง่ายๆ จบได้ใน 10 ขั้นตอน!
หากคุณกำลังมีฝันอยากได้รถยนต์ดีๆ สักคัน ในราคาไม่แพง การซื้อรถยนต์มือสอง ก็อาจจะเป็นอะไรที่ตอบโจทย์คุณได้ดีที่สุด เพราะไม่ใช่แค่ว่า การหารถที่ตอบโจทย์ความต้องการครบจะจบได้ทุกอย่าง แต่ผู้ซื้อจะต้องมีการคิดล่วงหน้าด้วยว่า จะต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรยังไงในอนาคต เช่น ประกันรถยนต์ ค่าซ่อมแซมส่วนสึกหรอรถยนต์ ฯลฯ เพราะฉะนั้นการครอบครองรถยนต์สเปคดีๆ ที่มีราคาเบาๆ อย่างรถยนต์มือสอง จะสามารถตอบโจทย์และลดภาระของคุณได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่ตอนนี้กำลังสนใจอยากซื้อรถยนต์มือสอง แล้วไม่อยากพลาดต้องมาดู ซื้อขายรถมือสองง่ายๆ จบได้ใน 10 ขั้นตอน!
  1. ตั้งงบประมาณไม่ให้บานปลาย

    ก่อนที่จะซื้อรถยนต์มือสอง หรืออะไรก็ตาม แน่นอนว่าสิ่งที่จะต้องคิดเป็นอย่างแรก คือการวางแผนทางการเงิน ก่อนที่คุณจะซื้อไม่ว่าจะเงินสด หรือเงินผ่อน ก็ควรจะตั้งงบประมาณที่ชัดเจน เพื่อให้เพียงพอต่อกำลังซื้อ และหากคุณไม่มีกำลังซื้อเสร็จเด็ดขาด แบบจ่ายครั้งเดียวจบ คุณควรจะต้องเช็กให้รอบคอบว่า คุณมีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ หักลบกับค่าใช้จ่ายทุกเดือนแล้วเหลือเท่าไหร่ มีกำลังจ่ายสำหรับผ่อนรถยนต์ในแต่ละเดือนเท่าไหร่ ควรน้อยกว่าที่เหลือจากหักลบทุกเดือน เพราะเผื่อมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในอนาคต


  2. หารถยนต์คันโปรดให้ตอบโจทย์ตัวเองที่สุด

    หาข้อมูลรถยนต์ที่ถูกใจจากเว็บไซต์ต่างๆ อาจพิจารณาจากแบรนด์ สเปค และประเภทการใช้งาน ลองถามตัวเองว่าคุณต้องการใช้รถคู่ใจคันนี้ไปทำอะไร เช่น ขนของ ก็อาจจะมองหารถกระบะไว้เดินทางกับครอบครัว หลายคนก็อาจจะเป็นรถตู้ หรือรถอเนกประสงค์แบบ PPV แล้วค่อยหารุ่นที่มีสเปคใช่ และแบรนด์ที่ใจชอบ อาจจะจดไว้ในใจประมาณ 2-3 รุ่น แล้วเรียงเป็นอันดับ ถ้าอันดับ 1 หาไม่ได้ หรือไม่ตรงใจ ก็อาจจะเปลี่ยนไปเลือกอันดับ 2 แทน


  3. ติดต่อผู้ขายเพื่อพูดคุย

    เมื่อได้เจอรถที่ตรงใจ ใช่กับคุณที่สุดแล้ว คุณควรจะติดต่อกับผู้ขายตามช่องทางที่มี เพื่อพูดคุยถามคลาสสิค เพื่อสแกนข้อมูลของรถและผู้ขายคร่าวๆ เช่น รถใช้เองรึเปล่า ซื้อมาจากที่ไหน มือที่เท่าไหร่ ทำไมถึงขาย มีเล่มทะเบียนมั้ย ฯลฯ และควรสังเกตตลอดการคุยว่า สามารถตอบได้หรือไม่ มีส่วนไหนที่ไม่รู้ หรือไม่แน่ใจรึเปล่า ถ้าตอบไม่ได้คุณก็ควรจะคิดอีกทีว่า เปลี่ยนไปซื้อคันอื่นดีมั้ย


  4. ตรวจสอบประวัติและสภาพรถยนต์

    ถ้าพูดคุยกับคนขายแล้วคุณรู้สึกว่าโอเค น่าเชื่อถือ คุณอาจจะลองนัดผู้ขายเพื่อดูความน่าเชื่อถือของผู้ขายด้วยการขอดูเล่มทะเบียนตัวจริงว่ามีมั้ย มีชื่อในเล่มตรงกับชื่อผู้ขายหรือไม่ ถ้าไม่ มีเอกสารอื่นมายืนยันหรือไม่ว่าทำไมต้องโอนลอย ตรวจข้อมูลรถจากเลข VIN หรือเลขตัวถังรถว่าเคยมีการดัดแปลงส่วนไหนหรือไม่ อย่างไร ถ้าผ่านการดัดแปลงมาพอสมควรก็อาจจะเลี่ยงไปหาคันอื่นดีกว่าค่ะ นอกจากนี้ก็ควรมีการตรวจดูสภาพรอบๆ คันรถเบื้องต้น ว่ามีตำหนิมั้ย มีเยอะแค่ไหน หรือมีปัญหาตรงจุดไหนที่คุณรู้สึกว่าไม่พอใจหรือไม่


  5. ลองสัมผัสรถด้วยการทดลองขับ

    ขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณสแกนและรู้ข้อมูลของรถยนต์ได้มากขึ้น ด้วยการสัมผัสลองขับจริง เพื่อให้ได้รู้ว่าระบบภายในของรถมีส่วนไหนที่มีปัญหา หรือเสียหายหรือไม่ อาจจะลองสังเกตขณะสตาร์ต วิ่ง เลี้ยว เบรก เร่ง และลดความเร็ว บีบแตร และลองใช้ที่ปาดน้ำฝน แล้วจดจำไว้ไปพิจารณาอีกครั้ง


  6. หลังลองขับ กลับมาดูสภาพอีกครั้ง

    บางครั้งรถยนต์อาจจะดูสวยและใหม่ ขณะขับก็ใช้ได้ไม่มีปัญหา แต่ก็อย่าชะล่าใจ หลังขับรถยนต์กลับมาจอดต้องตรวจเช็กสภาพและเครื่องยนต์ต่างๆ ด้วย เช่น น้ำแอร์ หรือการหยดของน้ำมัน ฯลฯ หากพาผู้เชี่ยวชาญไปตรวจดูรถ หรือขอนำรถยนต์เข้าไปเช็กสภาพตามศูนย์รถยนต์ต่างๆ ได้ด้วยจะดีมากค่ะ


  7. ต่อรองราคากับผู้ขายให้เหมาะสม

    แน่นอนว่ารถยนต์มือสอง คือรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วย่อมต้องมีส่วนสึกหรอ หรือตำหนิบ้างเป็นธรรมดา เมื่อเจอตำหนิหรือมีปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์บางประการ ก็อยู่ที่คุณจะตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกรถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์คู่ใจของคุณหรือไม่ โดยอาจจะเลือกให้ผู้ขายกลับไปซ่อมแซมให้เรียบร้อย และมีการตกลงราคาให้เหมาะสม หรือเลือกที่จะโบกมือลาให้รถยนต์คันนี้ แต่ความจริงอยู่ที่แต่ละกรณี เนื่องจากผู้ซื้อส่วนใหญ่นิยมต่อรองราคา บางทีก็อาจจะเกิดการตกลงราคา หรือมีของสมนาคุณแถมให้ผู้ซื้อทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องตำหนิ หรือปัญหาของรถยนต์มาเกี่ยวข้องก็มี


  8. จัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน

    นอกจากเงินที่คุณต้องเตรียมเพื่อชำระแล้ว ก็ควรจะต้องเตรียมเอกสารที่ใช้ในการซื้อขายรถยนต์ให้ครบถ้วน และควรขอเอกสารยืนยันตัวบุคคล เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขาย ฯลฯ เพิ่มเติม เผื่อมีปัญหาภายหลังจะได้ตามผู้ขายมารับผิดชอบได้ถูกคน


  9. ชำระเต็มไม่ไหวต้องติดต่อไฟแนนซ์

    หากคุณเป็นอีกคนที่มีกำลังซื้อเงินสดไม่พอ อาจใช้วิธีการผ่อนกับไฟแนนซ์ ส่วนใหญ่ถ้าคุณเลือกซื้อกับเต็นท์ ทางเต็นท์จะช่วยติดต่อกับไฟแนนซ์ให้ คุณไม่ต้องลำบากเลย คุณอาจจะพูดคุยเจรจาเรื่องโปรโมชั่น หรือปรับลดราคาพิเศษดูก็ได้เพราะไม่ใช่เรื่องห้ามอะไร แต่ถ้าคุณเลือกซื้อรถยนต์มือสองเองอาจจะต้องติดต่อหาไฟแนนซ์กับธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ที่ให้บริการด้านนี้


  10. ตรวจเช็กสิ่งสำคัญในวันชำระเงิน

    วันส่งมอบรถและวันชำระเงินควรตรวจเช็กเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายรถยนต์ว่ามีครบถ้วนหรือไม่ ทั้งสมุดเล่มทะเบียน หนังสือเอกสารสัญญาซื้อ-ขายรถยนต์ แบบคำขอโอนเเละรับโอน ใบรับมอบอำนาจในกรณีที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกระทำแทนผู้มีอำนาจ และสำเนาบัตรประชาชนทั้งผู้ซื้อ-ขายที่ยังไม่หมดอายุ และตรวจเช็กว่าเป็นเอกสารจริง ที่มีข้อมูลถูกต้องหรือไม่ และลงลายมือเซ็นเอกสารเรียบร้อยครบถ้วนหรือไม่


เพียงเตรียมตัวแค่ 10 ขั้นตอนง่ายๆ ตามนี้ ทุกคนที่ฝันอยากจะมีรถยนต์มือสองดีๆ สักคันไว้ขับ ก็จะได้จับของจริงแบบไม่ต้องฝันอีกต่อไป ทั้งนี้ ควรศึกษาให้ละเอียดรอบด้าน และพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนซื้อขายด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาด ปราศจากปัญหาน่ากังวลใจที่อาจติดตามมาพร้อมกับรถยนต์คันเก่งที่กำลังโดนใจคุณ
คุณอาจสนใจ
สถิติของ MELLOCAR :
3384 จำนวนรถทั้งหมด / 17 รถใหม่เพิ่มเข้ามาในสัปดาห์นี้
Thailand  |
ภาษาไทย
Copyright © 2025 MelloCar