เทคโนโลยี AI (ปัญญาประดิษฐ์) และ IoT (อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง) ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพของซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมรถยนต์ ความสามารถของ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและการใช้ IoT ในการเชื่อมต่อข้อมูลจากส่วนต่างๆ ของซัพพลายเชน ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตรวจสอบสถานะการผลิตและการจัดหาชิ้นส่วนได้แบบเรียลไทม์
ตัวอย่างหนึ่งของการใช้ AI คือการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมจาก IoT เซ็นเซอร์ต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่ในชิ้นส่วนรถยนต์และสายการผลิต เพื่อทำนายปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและเสนอแนวทางแก้ไขก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อการผลิตจริง ซึ่งช่วยลดความล่าช้าในการผลิตและลดความสูญเสียในซัพพลายเชน
นอกจากนี้ AI ยังช่วยให้ระบบการจัดการสินค้าคงคลังสามารถคาดการณ์ความต้องการของตลาดและปรับปรุงกระบวนการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการจัดเก็บสินค้าค้างสต็อก และช่วยให้บริษัทสามารถปรับตัวตามความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็ว
IoT ยังช่วยให้ซัพพลายเออร์และผู้ผลิตสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการรวบรวมข้อมูลจากเครื่องจักรและชิ้นส่วนต่างๆ ช่วยให้สามารถตรวจสอบและปรับปรุงกระบวนการผลิตได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้เกิดปัญหาใหญ่ก่อน
โดยรวมแล้ว เทคโนโลยี AI และ IoT ได้มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถรับมือกับความท้าทายและความไม่แน่นอนในตลาดได้ดียิ่งขึ้น